วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

การพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ด้วยวิธี Pair programming

ด้วยกระบวนการพัฒนาระบบสารสนเทศ ตั้งแต่อดีตที่ศึกษากันมาและใช้กันโดยทั่วไปจะใช้กระบวนการที่เรียกว่า Waterfall หรือ JAD (Joint Application Development) หรือ RAD (Rapid Application Development) แต่หลาย ๆ คนนำมาใช้แล้วยังมีปัญหา ปัญหาที่เกิดใช่ว่าจะทำงานออกมาไม่ได้ แต่ปัญหาในตรงนี้ได้แก่ งานออกมาไม่มีคุณภาพ งานเสร็จไม่ทันกำหนดการ งานไม่ตรงกับ user requirement บ้าง โปรแกรมเมอร์ลาออกในขณะที่งานไม่เสร็จบ้าง ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มีนักวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ คิดหาหลักการและวิธีมาแก้ปัญหาหลากหลายวิธี แต่มีวิธีของ Dr. Williams แห่งมหาวิทยาลัย North Carolina State อเมริกาได้เสนอการพัฒนาโดยใช้เทคนิคง่าย ๆ โดยให้โปแกรมเมอร์ 2 คนพัฒนาโปรแกรมเดียวกัน หมายถึงรับผิดชอบร่วมกันทุก ๆ ฟังก์ชัน หรือทุก ๆ class โดยให้คนใดคนหนึ่งเขียนโปรแกรม อีกคนหนึ่งให้คำแนะนำและทดสอบผลการทำงาน ในขณะเดียวกันเมื่อครบกำหนดเวลา ก็ให้สลับกันทำหน้าที่จากคนให้คำแนะนำไปเขียนคำสั่ง คนเขียนคำสั่งมาเป็นผู้ทดสอบ อาจสลับกันทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง อย่างน้อยในวันหนึ่ง ๆ จะต้องเปลี่ยนกันหนึ่งครั้ง
วิธีการแบบนี้ Dr. Williams ให้ข้อคิดเห็นว่า เป็นการทำงานคล้ายการขับรถแข่ง มีคนขับและมี Navigator คอยควบคุม แต่ด้านคอมพิวเตอร์ให้สลับกัน ทำให้มีข้อดีหลายอย่าง เช่น

1. สร้างวินัยในการทำงาน มีคนคอยบอกกล่าวในสิ่งที่ถูกต้อง ตรงกับคำพูดที่ทันสมัยว่า "ไปถูกทางแล้ว" นั่นเอง
2. การเขียนคำสั่งออกมาดี ถูกต้องมากกว่า ออกแบบชุดคำสั่งได้ดีกว่า
3. ทำงานกันอย่างมีชีวิตชีวามากกว่า หรือเรียกว่ากระฉับกระเฉงมากกว่า
4. ถ้ามีใครคนหนึ่งคนใด ออกไป คำสั่งที่มีลักษณะเฉพาะตัวของคนนั้นยังมีคนสืบต่อไปได้ ถ่ายทอดไปยังคนใหม่ได้
5. การล่าช้าน้อยกว่า นำเอาโปรแกรมเมอร์ 2 คนทำงานแยกกัน

จะเห็นว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยวิธีนี้ น่าสนใจไม่น้อย สำหรับองค์กรที่มีบุคลากรมาก มีปัญหาการลาออกบ่อย คงแก้ปัญหาได้ดี

ไม่มีความคิดเห็น: