ตั้งหัวข้อประเด็นนี้ขึ้นมา ไม่ได้ตั้งใจเพื่อให้เป็นประเด็นให้ถกเถียงกัน แต่จากการได้รับรู้งานวิจัย จากคำบอกเล่าของอาจารย์ผู้สอนคอมพิวเตอร์ด้วยกัน จากประสบการณ์ตรงของผมเองทั้งจากการสอนให้ปฏิบัติ และการสังเกตและการรายงานผลของเครื่อง Server ของมหาวิทยาลัย
จากการสังเกต เมื่อผมให้นักศึกษาให้การบ้านการเขียนโปรแกรม หรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ นักศึกษาบางคนสามารถค้นหาเนื้อหา หรือหาวิธีการแก้ปัญหาโดยการค้นคว้าด้วยตนเองได้ แทบนับจำนวนคนที่แก้ปัญหาได้ ส่วนนักศึกษาที่เป็นส่วนใหญ่มักจะหาข้อมูลไม่ได้ ต้องรอให้อาจารย์ทำให้ดู เมื่ออาจารย์ค้นหาเจอ แต่ถ้าเป็นเว็บที่เป็นภาษาอังกฤษ นักศึกษากลับปฎิเสธเว็บนั้นทันที ไม่พยายามแม้แต่จะอ่านหัวข้อหรือ source code แม้ว่าทั้งที่เราต้องเขียนโปรแกรมด้วยภาษาอังกฤษอยู่แล้ว นักศึกษาอยากได้เว็บที่เป็นภาษาไทย แต่อยากถามย้อนกลับไปว่า ถ้าเราปฏิเสธภาษาอังกฤษแล้ว เมื่อนักศึกษาจบออกไปแล้วจะหางานอะไรทำ ในเมื่อถ้าเราไปทำงานกับบริษัทที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ เราต้องรอให้คนไทยแปลเป็นภาษาไทยก่อนหรือ บริษัทเขาคงไม่รอเราด้วยหรอกนะ
เมื่อมีเวลาว่าง โอเคว่านักศึกษาชอบใช้เวลาว่างในการใช้อินเทอร์เน็ต เป็นสิ่งที่ดี ขอชื่นชม แต่เมื่อไปดูเนื้อหาที่นักศึกษาเข้าไปดูนั้น ส่วนใหญ่แล้วนักศึกษาจะเข้าเว็บที่เป็นบันเทิง เล่นเกมออนไลน์ ข่าวสังคม ดารา เว็บต่าง ๆ ยกเว้นเว็บที่ให้ความรู้ จริง ๆ แล้วถามว่าเว็บที่ให้ความรู้นั้นน้อยหรือไม่ เปล่าเลยมีการสอนทุกเรื่อง อยากรู้อะไร ได้รู้ทุกอย่าง เมื่อตอนที่ผมได้ใช้อินเทอร์เน็ตใหม่ ๆ ตลึงกับเนื้อหาความรู้อันมากมายในนั้น บอกกับตัวเองในใจว่า ถ้าความรู้อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากมายขนาดนี้ เราจะเรียนให้จบปริญญาเอกให้ได้อย่างไม่ยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
จากการดูกราฟการใช้ในอินเทอร์เน็ตของราชภัฏสงขลา เราจะใช้แบนวิดธ์ประมาณ 25-30 Mbps ซึ่งสูงมาก ๆ แล้วไปดูที่เครื่อง proxy server ซึ่งทำหน้าที่เก็บ URL ที่นักศึกษาและบุคลากรของเราเข้าไปยังเว็บนั้น ๆ ปรากฎว่า เว็บ sanook เป็นเว็บที่เข้าบ่อยที่สุด เมื่อไปดูเว็บที่คนเข้าน้อยที่สุดได้แก่เว็บที่เกี่ยวกับเว็บความรู้ อยากให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทราบว่าทุกครั้งที่ใช้คอมพิวเตอร์จะมีค่าใช้จ่ายที่เรามองไม่เห็นอยู่ ได้แก่ ค่าเช่าวงจรอินเทอร์เน็ต ค่าเช่าเครื่องคอมฯ ค่าไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ ค่าจ้างพนักงาน อื่น ๆ จิปาถะ อยากฝากให้เป็นข้อคิดหน่อยว่า ทำอย่างไรให้นักศึกษาใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว เกิดประโยชน์สูงสุด มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ ด้านคอมพิวเตอร์ เมื่อจบไปแล้วเป็นที่ต้องการของนายจ้าง มีเงินเดือนสูง ๆ จะไปศึกษาต่อก็สอบเข้าได้ อย่างคนมีภูมิความรู้ จะประกอบอาชีพส่วนตัวก็มีลูกค้าไว้ใจเรา รู้แล้วรีบทำเสียตั้งแต่วันนี้ ยังไม่สาย..... ผมขอเอาใจช่วย
1 ความคิดเห็น:
เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ ตั้งแต่สอนแรกๆ แล้วค่ะ หลังๆ มาใช้วิธีว่าพยายามแปลให้เด็กมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากให้เค้าพยายามแปลด้วยตนเอง ก็ไม่พ้น ซอฟต์แวร์ช่วยแปล อ่านแล้วตลก แล้วก็ลอกเค้ามาบางครั้งก็เลิกสั่งการบ้านแนวนี้ไปเลยค่ะ เพราะเสียเวลา แต่ตอนนี้ ถ้ายังสอนอยู่จะให้เด็กหัดเล่น blog ส่งงาน หรือสนทนากัน แลกเปลี่ยนความรู้แบบ KM อย่างนี้ดีกว่า น่าจะดึงดูดความสนใจเด็กๆ ได้มากกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น